การคำนวณค่า ABV (Alcohol by Volume) ในคราฟต์เบียร์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ผลิตรู้ถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเบียร์ของตน วิธีที่นิยมใช้ในการคำนวณค่า ABV คือการวัดความหนาแน่นของเบียร์ (Specific Gravity) ทั้งก่อนและหลังการหมัก โดยใช้เครื่องวัดความหนาแน่น (Hydrometer) หรือเครื่องวัดแบบดิจิตอล (Refractometer)
สูตรการคำนวณค่า ABV
สูตรพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณค่า ABV คือ:
ABV=(OG−FG)×131.25\text{ABV} = (\text{OG} – \text{FG}) \times 131.25ABV=(OG−FG)×131.25
โดยที่:
- OG (Original Gravity): ความหนาแน่นของ wort ก่อนการหมัก
- FG (Final Gravity): ความหนาแน่นของเบียร์หลังการหมัก
ขั้นตอนการวัดค่า OG และ FG
- การวัดค่า OG (Original Gravity)
- วัดค่า OG หลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการต้มน้ำหวาน (wort) และก่อนที่จะเริ่มกระบวนการหมัก
- ใช้เครื่องวัดความหนาแน่น (Hydrometer) หรือเครื่องวัดแบบดิจิตอล (Refractometer) โดยทั่วไป ค่า OG จะอยู่ระหว่าง 1.040 ถึง 1.090 ขึ้นอยู่กับสูตรเบียร์
- การวัดค่า FG (Final Gravity)
- วัดค่า FG หลังจากที่กระบวนการหมักเสร็จสิ้น ค่า FG จะต่ำกว่า OG เนื่องจากน้ำตาลถูกยีสต์เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- ใช้เครื่องวัดความหนาแน่น (Hydrometer) หรือเครื่องวัดแบบดิจิตอล (Refractometer) โดยทั่วไป ค่า FG จะอยู่ระหว่าง 1.010 ถึง 1.020
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมติว่าคุณมีข้อมูลดังนี้:
- OG (Original Gravity): 1.060
- FG (Final Gravity): 1.010
- คำนวณค่า ABV
ABV=(1.060−1.010)×131.25\text{ABV} = (1.060 – 1.010) \times 131.25ABV=(1.060−1.010)×131.25
ABV=0.050×131.25\text{ABV} = 0.050 \times 131.25ABV=0.050×131.25
ABV=6.5625\text{ABV} = 6.5625ABV=6.5625
ดังนั้น ค่า ABV สำหรับสูตรนี้คือประมาณ 6.56%
หมายเหตุ
- ค่าที่ได้จากการคำนวณเป็นเพียงค่าประมาณ ค่าจริงอาจแตกต่างได้เล็กน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น อุณหภูมิและการหมักที่สมบูรณ์หรือไม่
- การใช้อุปกรณ์ที่แม่นยำและการวัดที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ค่าที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น
การใช้อุปกรณ์วัดค่าแอลกอฮอล์ในเบียร์คราฟต์
การวัดค่า ABV (Alcohol by Volume) ในเบียร์คราฟต์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รู้ถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเบียร์ของคุณ อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดค่า ABV มีหลายประเภท โดยเครื่องมือที่นิยมใช้มีดังนี้:
1. ไฮโดรมิเตอร์ (Hydrometer)
ไฮโดรมิเตอร์เป็นอุปกรณ์วัดความหนาแน่นของของเหลวที่ใช้วัดค่า OG (Original Gravity) และ FG (Final Gravity) ของเบียร์ก่อนและหลังการหมัก
- การใช้งาน: จุ่มไฮโดรมิเตอร์ลงในของเหลวที่ต้องการวัดค่าแล้วอ่านค่าความหนาแน่นจากสเกลที่อยู่บนไฮโดรมิเตอร์
- ข้อดี: ราคาไม่แพง ใช้งานง่าย และให้ผลที่ค่อนข้างแม่นยำ
- ข้อเสีย: ต้องใช้ปริมาณตัวอย่างที่มากและต้องระวังเรื่องอุณหภูมิของตัวอย่าง
2. เครื่องวัดแบบดิจิตอล (Digital Refractometer)
เครื่องวัดแบบดิจิตอลใช้หลักการการหักเหของแสงในการวัดความเข้มข้นของน้ำตาลในของเหลว
- การใช้งาน: หยดของเหลวตัวอย่างเล็กน้อยบนเลนส์ของเครื่องวัดแล้วอ่านค่าที่แสดงบนหน้าจอ
- ข้อดี: ใช้ปริมาณตัวอย่างน้อย ให้ผลรวดเร็ว และสามารถชดเชยอุณหภูมิได้
- ข้อเสีย: ราคาแพงกว่าไฮโดรมิเตอร์
3. เครื่องวัดแอลกอฮอล์แบบสเปคตรัม (Alcohol Meter/Spectrometer)
เครื่องวัดแอลกอฮอล์แบบสเปคตรัมใช้ในการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในของเหลวโดยตรง
- การใช้งาน: อ่านค่าแอลกอฮอล์จากตัวอย่างของเหลวที่ผ่านการตรวจวัดด้วยเครื่อง
- ข้อดี: ให้ผลที่แม่นยำและตรงไปตรงมา
- ข้อเสีย: ราคาแพงและต้องการการดูแลรักษาที่ดี
4. เครื่องวัดความหนาแน่นแบบพกพา (Portable Density Meter)
เครื่องวัดความหนาแน่นแบบพกพาใช้ในการวัดความหนาแน่นของของเหลวเพื่อคำนวณค่า ABV
- การใช้งาน: จุ่มหัววัดลงในของเหลวแล้วอ่านค่าความหนาแน่นจากหน้าจอ
- ข้อดี: แม่นยำและสะดวกในการใช้งาน
- ข้อเสีย: ราคาแพง
การวัดค่า OG และ FG ด้วยไฮโดรมิเตอร์
ขั้นตอนการวัดค่า OG:
- นำตัวอย่าง wort ก่อนการหมักใส่ในกระบอกตวง
- จุ่มไฮโดรมิเตอร์ลงในกระบอกตวง
- อ่านค่าความหนาแน่นที่ระดับของเหลว (OG)
ขั้นตอนการวัดค่า FG:
- นำตัวอย่างเบียร์หลังการหมักใส่ในกระบอกตวง
- จุ่มไฮโดรมิเตอร์ลงในกระบอกตวง
- อ่านค่าความหนาแน่นที่ระดับของเหลว (FG)
การคำนวณค่า ABV
เมื่อได้ค่า OG และ FG แล้ว ให้ใช้สูตรคำนวณค่า ABV:
ABV=(OG−FG)×131.25\text{ABV} = (\text{OG} – \text{FG}) \times 131.25ABV=(OG−FG)×131.25
ตัวอย่างการใช้งาน
สมมติว่าคุณมีค่า OG = 1.060 และ FG = 1.010
ABV=(1.060−1.010)×131.25\text{ABV} = (1.060 – 1.010) \times 131.25ABV=(1.060−1.010)×131.25 ABV=0.050×131.25\text{ABV} = 0.050 \times 131.25ABV=0.050×131.25 ABV=6.56\text{ABV} = 6.56ABV=6.56
ดังนั้น ค่า ABV ของเบียร์นี้คือ 6.56%
การเลือกใช้อุปกรณ์วัดค่า ABV ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ผลิตเบียร์คราฟต์ การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ค่าที่แม่นยำและทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ