หลายคนบอกว่าทำเบียร์เอง อาจจะยุ่งยาก มีอุปกรณ์เยอะ หลายขั้นตอน ใช้เวลาต้มนาน เราเลยมาแนะนำทางลัดให้ทุกคน ที่อยากลองทำเบียร์เองเล่น ๆ ดู รับรองได้เบียร์รสชาติดี วิธีการไม่ยาก
เคล็ดลับอยู่ที่ สิ่งที่เรียกว่า DME (Dry Malt Extract)
สารบัญ
ToggleDME (Dry Malt Extract) คืออะไร
DME (Dry Malt Extract) คือ สารสกัดมอลต์ชนิดแห้งที่ใช้ในกระบวนการทำเบียร์ ซึ่งทำมาจากการระเหยน้ำออกจากน้ำมอลต์ ทำให้เหลือแต่สารสกัดที่เข้มข้น
คุณสมบัติของ DME:
- สะดวก: DME ช่วยให้การทำเบียร์ที่บ้านง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องใช้กระบวนการแช่และกรองมอลต์
- ความสะอาด: DME มักจะไม่มีวัตถุดิบที่เป็นกากหรือของเสียจากมอลต์
- การควบคุม: ช่วยให้การควบคุมปริมาณน้ำตาลในเบียร์ได้ง่ายขึ้น
- อายุการเก็บรักษานาน: DME มักจะเก็บรักษาได้นานกว่ามอลต์ที่เป็นของเหลว
การใช้ DME:
- การทำเบียร์: ใช้ DME เป็นส่วนผสมหลักในการเตรียมน้ำตาล (wort) สำหรับการหมักเบียร์
- การปรับปรุงรสชาติ: DME สามารถใช้เพื่อปรับปรุงรสชาติและความเข้มข้นของเบียร์
DME มาในรูปแบบผงที่ละลายในน้ำได้ง่าย โดยปกติจะมีหลายประเภท เช่น DME ที่มีรสชาติของมอลต์เบื้องต้นหรือที่มีการเพิ่มสีให้เข้มขึ้น ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามสูตรที่ต้องการ.
ขั้นตอนการทำเบียร์ด้วย DME
- เตรียมส่วนผสม:
- DME (แห้ง) ประมาณ 1-2 ปอนด์ ขึ้นอยู่กับปริมาณเบียร์ที่ต้องการทำ
- น้ำ (ตามที่ระบุในสูตร)
- ฮ็อพ (ตามที่ระบุในสูตร)
- ยีสต์ (ตามที่ระบุในสูตร)
- ต้มน้ำ:
- ต้มน้ำในหม้อใหญ่จนเดือด
- ใส่ DME:
- ใส่ DME ลงในน้ำร้อน คนให้ละลายจนหมด
- ต้มน้ำเวิร์ต (Wort):
- ต้มน้ำที่มี DME อยู่จนเริ่มเดือด ใช้เวลา 60 นาที โดยสามารถเพิ่มฮ็อพตามสูตรในช่วงนี้เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่น
- ทำให้เย็น:
- ใช้เครื่องทำความเย็นหรือวางหม้อในอ่างน้ำเย็นจนเย็นลงถึงอุณหภูมิที่ต้องการสำหรับการหมัก
- เปลี่ยนใส่ถังหมัก:
- ย้ายน้ำเวิร์ต Wort ที่เย็นแล้วไปยังหม้อหมัก
- เติมยีสต์:
- ใส่ยีสต์ลงไปในถังหมักแล้วปิดฝา
- หมัก:
- วางถังหมักในที่ที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม (ปกติ 18-24 องศาเซลเซียส) และปล่อยให้หมักจนเสร็จ (ประมาณ 1-2 สัปดาห์)
- บรรจุขวด:
- เมื่อหมักเสร็จ ให้กรองและบรรจุเบียร์ลงในขวดที่เติมน้ำตาลไว้ เพิ่มให้เบียร์ซ่าเกิดฟอง
- บ่มไว้:
- วางขวดในที่เย็นและมืดเพื่อบ่มเบียร์จนได้ที่ (ประมาณ 2-4 สัปดาห์)
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้เสร็จแล้ว คุณก็จะมีเบียร์ทำเองที่บ้านพร้อมดื่ม
Post Views: 66